“ติ๊งโน้ต” ดังใหญ่ ขึ้นเวทีเดินแบบโชว์ซิกแพ็คกระทบไหล่ดารา ด้าน “บุ๋ม” กรี๊ดให้คะแนนแฟนเต็มสิบ ปัด เป็นเจ๊ดันติ๊งโน้ตเข้าวงการ บอก ผู้จัดจ้างแฟนหนุ่มเองตนไม่เกี่ยว ส่วนคดีที่ติ๊งโน้ตโดนถีบในสนามแข่งรถ ไม่มีอะไรคืบหน้า เหน็บคู่กรณีใส่ผ้าถุงแทนที่จะสู้กันแบบแมนๆ
ถึงแม้จะโดนกระแสค่อนขอดว่าขี้เหร่ขั้นเทพ แต่ล่าสุดหนุ่ม "ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร" แฟนุร่นน้องของ"บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ก็ทำเอาหลายคนเซอร์ไพร์ส เมื่อเจ้าตัวโผล่ไปเดินแบบกระทบไหล่ดาราดังอย่าง “โทนี่ รากแก่น” และ “แทค ภรัณญยู” ในงาน Boys Toys & Fun 2011 @ Grand Hall สยามดิสคัฟเวอรี่ หนำซ้ำในงานยังมี “บุ๋ม” แฟนสาว ทำหน้าที่พิธีกรในงานอีกด้วย งานนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่หลายคนจะมองว่า เจ้าตัวเป็นเจ๊ดันให้แฟนได้เข้าวงการหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ทั้งคู่เคลียร์ว่า…
บุ๋ม : “เป็นการเดินแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของติ้งโน้ต ตอนแรกที่ติดต่อคุณติ๊งโน้ตมาเดินแบบหน่อย เราก็ถามว่ามีใครบ้าง ฟังแต่ละชื่อก็มืออาชีพทั้งนั้น เรามองหน้าติ้งโน้ตก็คิดว่าจะไหวมั้ย บุ๋มไม่ได้เทรนอะไรเลย จนกระทั่งจะเริ่มเดินเค้าก็ถามว่าเดินยังไง แต่พอตอนเดินจริง มีโชว์ซิกแพ็คด้วย เล่นเอาดิฉันกรี๊ดอยู่หลังเวที เพราะตอนซ้อมไม่มี (หัวเราะ)”
ติ้งโน้ต : “ก็ตื่นเต้นครับ ทุกทีอยู่บนหลังรถ วันนี้มาเดินคนเต็มเลย ทีแรกก็ตกใจ งงๆ อยู่ว่าจะเดินได้มั้ย แต่ตอนนี้ก็ชอบครับ สนุกดี ถามว่ามีเตรียมตัวอะไรบ้าง คือผมก็ทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง ลองซ้อมๆ ดูว่าเดินยังไง”
บุ๋ม : “ที่เขาแต่งชุดนี้แม่บุ๋มเขาก็สั่งมาให้บอกติ๊งโน้ตใส่แว่นดำ และถอดเสื้อด้วย วันนี้ก็ให้ 10 คะแนนเต็มค่ะ สำหรับการเดินครั้งแรก แล้วทำได้ขนาดนี้บุ๋มว่าโอเค อย่าเรียกว่าดันเลยค่ะ เพราะจริงๆ เขาติดต่อติ๊งโน้ตมาก่อน แล้วทางทีมงานก็บอกว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว บุ๋มจะมาเชียร์ติ๊งโน้ตด้วยมั้ย เราก็ไปอยู่แล้วค่ะ เขาก็เลยบอกให้เราเป็นพิธีกรด้วย เราก็โอเคค่่ะ อะไรที่เป็นตังค์เนอะ”
“อย่างที่รู้ว่าเราไม่เคยเกี่ยงเรื่องเงิน จะบาท สองบาท เราก็วิ่งอยู่แล้ว ดังนั้นมันเหมือนสิ่งที่เราทำเป็นความสนุก มาหาประสบการณ์ของติ้งโน้ตด้วย และอย่างน้อยบุ๋มเป็นพิธีกร เขาก็ต้องมางานนี้กับบุ๋มอยู่แล้ว ก็มาทำงานเลย ก็ได้ตังค์ ก็โอเคค่ะ ทีมแข่งรถเขาก็ยังอยู่ เพียงแต่เหมือนการเข้าวงการมันเป็นสีสันในชีวิตเขา แต่ถ้าต้องเดินแบบเป็นอาชีพจริงๆ บุ๋มคงไม่สนับสนุนขนาดนั้น อีกอย่างบุ๋มไม่สามารถดันใครได้ แค่ทำด้วยกันแบบนี้ดีแล้วค่ะ”
“ตอนนี้ก็ดูคิวให้เขาอยู่ (หัวเราะ) ถ้าเป็นงานอื่นๆ ก็ลองดูแล้วกันว่าเป็นงานอะไร แต่ถ้าต้องทำอะไรที่เขินมากๆ ก็ไม่ไหวนะ ขอดูเนื้องานนิดนึง เพราะเขาไม่ใช่คนในวงการ บางทีการทำแบบนี้สนุกก็จริง แต่ผลวิพากษ์วิจารณ์ก็มีเยอะ ซึ่งไม่อยากให้เขามารับรู้อะไรเยอะขนาดนั้น ให้เขาอยู่ในวงการมอเตอร์ไซต์มาตั้งนานก็ดีแล้ว ต้องดูก่อนว่าหวานขนาดไหน ถ้าเดินปุ๊บปั๊บก็โอเค แต่โชว์สวีทก็อย่าดีกว่าค่ะ สงสารเขา”
ติ้งโน้ต : “ผมยังไงก็ได้ แล้วแต่คุณบุ๋มอย่างเดียว ผมตามใจอยู่แล้วครับ”
“บุ๋ม” เผย ติดตามแฟนหนุ่มไปแข่งรถตามต่างประเทศอยู่บ่อยๆ
ติ้งโน้ต : “นานแล้วนะ ผมก็ไปดูแต่รถแข่งครับ”
บุ๋ม : “สักพักแล้วนะ เขาก็พาไปหลายที่ค่ะ แต่ไม่ได้สวีทอย่างที่ทุกคนคิดนะคะ ไปต่างประเทศทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกงหรือแม้แต่กรีก ก็ไปเดินดูแต่ร้านมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้ดูวิวเลย”
ติ้งโน้ต : “การไปไหนมาไหนด้วยกันมันก็ทำให้รักมากอยู่แล้วครับ”
บุ๋ม : “(ยิ้ม)เขาเสมอต้นเสมอปลายค่ะ”
บอก ให้ "น้องอันดามัน" ลูกสาว เรียกแฟนหนุ่มว่า "ป๊า" ฟุ้ง ทั้งสองเข้ากันได้เป็นอย่างดีถึง
บุ๋ม : “ติ๊งโน้ตซื้อน้องหมา ชื่อปูม้าให้อันดามันค่ะ”
ติ้งโน้ต : “เขาบ่นมาอยากได้มานานแล้วครับ เราก็ได้ยิน เลยโทรหาพรรคพวกว่าแบบนี้มีมั้ย ก็เป็นพันธุ์ปอมขาว ราคาประมาณ 4-5 หมื่นครับ คือผมซื้อมาให้บุ๋ม แต่ตอนนี้น้องอันดามันยึดไปเป็นเจ้าของแล้วครับ”
บุ๋ม : “ไม่ใช่น้องอยากได้ แต่เป็นบุ๋ม เพราะบุ๋มอยากได้พันธุ์ปอมขาวมาตั้งนานแล้ว เขาก็โทรสั่งมาให้จากฟาร์มที่เชียงใหม่ ปูม้าก็ฉลาดค่ะ สอนให้ถ่ายตรงไหนก็ถ่ายตรงนั้น กินข้าวเป็นเวลา เลี้ยงง่ายค่ะ อันดามันกับติ๊งโน้ตก็เข้ากันได้ดีค่ะ ตอนนี้ติ๊งโน้ตกล่อมเขาหลับเองได้แล้ว บุ๋มให้อันดามันเรียกเขาว่า ป๊าโน๊ต คือบุ๋มมานั่งคิดไงว่าจะให้เรียกพี่เหรอ แล้วฉันล่ะ เป็นแม่นะ มันห่างเกินไง แล้วเค้าเป็นแฟนเราจะให้เรียกพี่เรียกน้าก็ไม่ใช่”
พอถามเรื่องคดีความของแฟนหนุ่ม “ติ๊งโน้ต” ที่ถูกเพื่อนนักแข่งมอเตอร์ไซต์ถีบสาว “บุ๋ม” ก็ตอบอย่างมีอารมณ์ขอให้เรื่องจบๆ ไป ไม่อยากเครียดกับเรื่องดังกล่าวแล้ว
บุ๋ม : “อย่าเรียกว่าจบดีเลยค่ะ ให้มันจบๆ ไปดีกว่า เพราะเราไม่อยากต่อกรมากอยู่แล้ว เพราะวัตถุประสงค์แรกที่บุ๋มสู้ก็เพื่อแค่ว่าให้กฎ กติกา การลงโทษมันชัดเจน เท่านั้นเอง แต่ ณ ตอนนี้มันเกินเลยแล้วไง เขาพูดถึงแม่ เขาพูดถึงอะไรต่อมิอะไร เขาเอาโสร่งมานั่งใส่ แทนที่จะคุยกันแมนๆ โอเคในเมื่อเขาเลือกทางอย่างนั้น บุ๋มก็ไม่ยุ่งด้วยดีกว่า เพราะบุ๋มเครียด ติ้งโน้ตก็เครียด มันก็ไม่มีผลดีกับการแข่งของเขา เพราะการขี่มอเตอร์ไซค์มันต้องใช้สมาธิ ไม่ควรมีอะไรมารบกวนจิตใจ เค้าทำอะไรก็ปล่อยเขาแล้ว ถือว่าเราต่อสู้เต็มที่แล้ว พอแล้ว จบค่ะ”
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
รายงานโดย : ปฏิพร วาปีทะ
“ติ๊งโน้ต” ดังใหญ่ ขึ้นเวทีเดินแบบโชว์ซิกแพ็คกระทบไหล่ดารา ด้าน “บุ๋ม” กรี๊ดให้คะแนนแฟนเต็มสิบ ปัด เป็นเจ๊ดันติ๊งโน้ตเข้าวงการ บอก ผู้จัดจ้างแฟนหนุ่มเองตนไม่เกี่ยว ส่วนคดีที่ติ๊งโน้ตโดนถีบในสนามแข่งรถ ไม่มีอะไรคืบหน้า เหน็บคู่กรณีใส่ผ้าถุงแทนที่จะสู้กันแบบแมนๆ
ถึงแม้จะโดนกระแสค่อนขอดว่าขี้เหร่ขั้นเทพ แต่ล่าสุดหนุ่ม "ติ๊งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร" แฟนุร่นน้องของ"บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ก็ทำเอาหลายคนเซอร์ไพร์ส เมื่อเจ้าตัวโผล่ไปเดินแบบกระทบไหล่ดาราดังอย่าง “โทนี่ รากแก่น” และ “แทค ภรัณญยู” ในงาน Boys Toys & Fun 2011 @ Grand Hall สยามดิสคัฟเวอรี่ หนำซ้ำในงานยังมี “บุ๋ม” แฟนสาว ทำหน้าที่พิธีกรในงานอีกด้วย งานนี้จึงเลี่ยงไม่ได้ที่หลายคนจะมองว่า เจ้าตัวเป็นเจ๊ดันให้แฟนได้เข้าวงการหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ทั้งคู่เคลียร์ว่า…
บุ๋ม : “เป็นการเดินแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของติ้งโน้ต ตอนแรกที่ติดต่อคุณติ๊งโน้ตมาเดินแบบหน่อย เราก็ถามว่ามีใครบ้าง ฟังแต่ละชื่อก็มืออาชีพทั้งนั้น เรามองหน้าติ้งโน้ตก็คิดว่าจะไหวมั้ย บุ๋มไม่ได้เทรนอะไรเลย จนกระทั่งจะเริ่มเดินเค้าก็ถามว่าเดินยังไง แต่พอตอนเดินจริง มีโชว์ซิกแพ็คด้วย เล่นเอาดิฉันกรี๊ดอยู่หลังเวที เพราะตอนซ้อมไม่มี (หัวเราะ)”
ติ้งโน้ต : “ก็ตื่นเต้นครับ ทุกทีอยู่บนหลังรถ วันนี้มาเดินคนเต็มเลย ทีแรกก็ตกใจ งงๆ อยู่ว่าจะเดินได้มั้ย แต่ตอนนี้ก็ชอบครับ สนุกดี ถามว่ามีเตรียมตัวอะไรบ้าง คือผมก็ทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง ลองซ้อมๆ ดูว่าเดินยังไง”
บุ๋ม : “ที่เขาแต่งชุดนี้แม่บุ๋มเขาก็สั่งมาให้บอกติ๊งโน้ตใส่แว่นดำ และถอดเสื้อด้วย วันนี้ก็ให้ 10 คะแนนเต็มค่ะ สำหรับการเดินครั้งแรก แล้วทำได้ขนาดนี้บุ๋มว่าโอเค อย่าเรียกว่าดันเลยค่ะ เพราะจริงๆ เขาติดต่อติ๊งโน้ตมาก่อน แล้วทางทีมงานก็บอกว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว บุ๋มจะมาเชียร์ติ๊งโน้ตด้วยมั้ย เราก็ไปอยู่แล้วค่ะ เขาก็เลยบอกให้เราเป็นพิธีกรด้วย เราก็โอเคค่่ะ อะไรที่เป็นตังค์เนอะ”
“อย่างที่รู้ว่าเราไม่เคยเกี่ยงเรื่องเงิน จะบาท สองบาท เราก็วิ่งอยู่แล้ว ดังนั้นมันเหมือนสิ่งที่เราทำเป็นความสนุก มาหาประสบการณ์ของติ้งโน้ตด้วย และอย่างน้อยบุ๋มเป็นพิธีกร เขาก็ต้องมางานนี้กับบุ๋มอยู่แล้ว ก็มาทำงานเลย ก็ได้ตังค์ ก็โอเคค่ะ ทีมแข่งรถเขาก็ยังอยู่ เพียงแต่เหมือนการเข้าวงการมันเป็นสีสันในชีวิตเขา แต่ถ้าต้องเดินแบบเป็นอาชีพจริงๆ บุ๋มคงไม่สนับสนุนขนาดนั้น อีกอย่างบุ๋มไม่สามารถดันใครได้ แค่ทำด้วยกันแบบนี้ดีแล้วค่ะ”
“ตอนนี้ก็ดูคิวให้เขาอยู่ (หัวเราะ) ถ้าเป็นงานอื่นๆ ก็ลองดูแล้วกันว่าเป็นงานอะไร แต่ถ้าต้องทำอะไรที่เขินมากๆ ก็ไม่ไหวนะ ขอดูเนื้องานนิดนึง เพราะเขาไม่ใช่คนในวงการ บางทีการทำแบบนี้สนุกก็จริง แต่ผลวิพากษ์วิจารณ์ก็มีเยอะ ซึ่งไม่อยากให้เขามารับรู้อะไรเยอะขนาดนั้น ให้เขาอยู่ในวงการมอเตอร์ไซต์มาตั้งนานก็ดีแล้ว ต้องดูก่อนว่าหวานขนาดไหน ถ้าเดินปุ๊บปั๊บก็โอเค แต่โชว์สวีทก็อย่าดีกว่าค่ะ สงสารเขา”
ติ้งโน้ต : “ผมยังไงก็ได้ แล้วแต่คุณบุ๋มอย่างเดียว ผมตามใจอยู่แล้วครับ”
“บุ๋ม” เผย ติดตามแฟนหนุ่มไปแข่งรถตามต่างประเทศอยู่บ่อยๆ
ติ้งโน้ต : “นานแล้วนะ ผมก็ไปดูแต่รถแข่งครับ”
บุ๋ม : “สักพักแล้วนะ เขาก็พาไปหลายที่ค่ะ แต่ไม่ได้สวีทอย่างที่ทุกคนคิดนะคะ ไปต่างประเทศทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกงหรือแม้แต่กรีก ก็ไปเดินดูแต่ร้านมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้ดูวิวเลย”
ติ้งโน้ต : “การไปไหนมาไหนด้วยกันมันก็ทำให้รักมากอยู่แล้วครับ”
บุ๋ม : “(ยิ้ม)เขาเสมอต้นเสมอปลายค่ะ”
บอก ให้ "น้องอันดามัน" ลูกสาว เรียกแฟนหนุ่มว่า "ป๊า" ฟุ้ง ทั้งสองเข้ากันได้เป็นอย่างดีถึง
บุ๋ม : “ติ๊งโน้ตซื้อน้องหมา ชื่อปูม้าให้อันดามันค่ะ”
ติ้งโน้ต : “เขาบ่นมาอยากได้มานานแล้วครับ เราก็ได้ยิน เลยโทรหาพรรคพวกว่าแบบนี้มีมั้ย ก็เป็นพันธุ์ปอมขาว ราคาประมาณ 4-5 หมื่นครับ คือผมซื้อมาให้บุ๋ม แต่ตอนนี้น้องอันดามันยึดไปเป็นเจ้าของแล้วครับ”
บุ๋ม : “ไม่ใช่น้องอยากได้ แต่เป็นบุ๋ม เพราะบุ๋มอยากได้พันธุ์ปอมขาวมาตั้งนานแล้ว เขาก็โทรสั่งมาให้จากฟาร์มที่เชียงใหม่ ปูม้าก็ฉลาดค่ะ สอนให้ถ่ายตรงไหนก็ถ่ายตรงนั้น กินข้าวเป็นเวลา เลี้ยงง่ายค่ะ อันดามันกับติ๊งโน้ตก็เข้ากันได้ดีค่ะ ตอนนี้ติ๊งโน้ตกล่อมเขาหลับเองได้แล้ว บุ๋มให้อันดามันเรียกเขาว่า ป๊าโน๊ต คือบุ๋มมานั่งคิดไงว่าจะให้เรียกพี่เหรอ แล้วฉันล่ะ เป็นแม่นะ มันห่างเกินไง แล้วเค้าเป็นแฟนเราจะให้เรียกพี่เรียกน้าก็ไม่ใช่”
พอถามเรื่องคดีความของแฟนหนุ่ม “ติ๊งโน้ต” ที่ถูกเพื่อนนักแข่งมอเตอร์ไซต์ถีบสาว “บุ๋ม” ก็ตอบอย่างมีอารมณ์ขอให้เรื่องจบๆ ไป ไม่อยากเครียดกับเรื่องดังกล่าวแล้ว
บุ๋ม : “อย่าเรียกว่าจบดีเลยค่ะ ให้มันจบๆ ไปดีกว่า เพราะเราไม่อยากต่อกรมากอยู่แล้ว เพราะวัตถุประสงค์แรกที่บุ๋มสู้ก็เพื่อแค่ว่าให้กฎ กติกา การลงโทษมันชัดเจน เท่านั้นเอง แต่ ณ ตอนนี้มันเกินเลยแล้วไง เขาพูดถึงแม่ เขาพูดถึงอะไรต่อมิอะไร เขาเอาโสร่งมานั่งใส่ แทนที่จะคุยกันแมนๆ โอเคในเมื่อเขาเลือกทางอย่างนั้น บุ๋มก็ไม่ยุ่งด้วยดีกว่า เพราะบุ๋มเครียด ติ้งโน้ตก็เครียด มันก็ไม่มีผลดีกับการแข่งของเขา เพราะการขี่มอเตอร์ไซค์มันต้องใช้สมาธิ ไม่ควรมีอะไรมารบกวนจิตใจ เค้าทำอะไรก็ปล่อยเขาแล้ว ถือว่าเราต่อสู้เต็มที่แล้ว พอแล้ว จบค่ะ”
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
รายงานโดย : ปฏิพร วาปีทะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น